NEKOPOST |
การแสดงผล |
เอ็ดดี้ (エディ) นักเรียนชั้นปีที่ 2 หลักสูตรอัศวินของโรงเรียนหลวงสปาด้า ตอนนี้เขาคนนั้นกำลังเดินเล่นอยู่บริเวณทางตอนใต้ของภูเขากาลาฮอลไปพร้อมกับพวกเพื่อน ๆ ของเขา
เอ็ดดี้ “---แล้วเอลิน่าก็พูดออกมาแบบนั้นละ”
… “เธอพูดแบบนั้นจริง ๆ ดิ?”
เอ็ดดี้ “ใช่แล้วละ เธอบอกกับกูว่าจะรอกูจนกว่าถึงวันที่กูสามารถไปรับภารกิจที่กิลนักผจญภัยสาขาหลักได้ ! แสดงว่ากูมีความหวังแล้วสินะ”
… “ล้อเล่นน่า ! แล้วอีกกี่ชาติวะกว่าแกจะทำได้ถึงจุดนั้น”
เอ็ดดี้ “อย่าพูดแบบนั้นสิฟะ !”
ปาร์ตี้ของนักเรียนทั้ง 4 คนกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส แม้ว่าตลอดช่วงปลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจะต้องเหนื่อยไปกับการเดินแถบเทือกเขากาลาฮอลก็ตาม
พวกเขายังเป็นนักผจญภัยแรงค์ 1 เท่านั้น ไม่สิ ในฐานะที่กำลังจะเป็นอัศวินในอนาคต พวกเขาจำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นแล้วพวกเขาจะมาเหนื่อยกับเรื่องแค่นี้ไม่ได้
… “ถ้าหากทำภารกิจนี้สำเร็จ ก็จะได้เป็นแรงค์ 2 ซะที พวกเอ็งว่างั้นมะ”
เอ็ดดี้ “แล้วพวกเราทั้งหมดก็จะได้เข้าใกล้คุณผู้หญิงเอลิน่าไปอีกขั้นหนึ่งสินะ อ้า--”
ใช่แล้ว ! เพื่อน ๆ ของเขาต่างขานรับเอ็ดดี้เป็นเสียงเดียวกัน
ความงดงามของเอลฟ์ ความงดงามของเอลิน่า เป็นที่พูดคุยกันในหมู่นักเรียนอัศวินมาก เรียกว่าเป็นไอดอลของพวกเขาก็ว่าได้
เธอเปรียบได้ดั่งดอกไม้งามที่สุภาพและอ่อนโยน แถมยังอ่อนโยนกับทุก ๆ คนไม่เว้นแม้แต่นักเรียน แล้วจะไม่ให้เธอคนนั้นเป็นที่นิยมได้ยังไงกัน
เพราะฉะนั้น พวกเพื่อนของพวกเขาเลยไม่ค่อยถือสาความคิดของเอ็ดดี้จริงจังนัก ว่าเขาจะสามารถข้ามแม่น้ำและอุปสรรคต่าง ๆ ไปสู่หัวใจของเอลิน่าได้สำเร็จตามที่เขาพูด
เอ็ดดี้ “กูจะทำให้พวกมึงเห็นเอง ว่ากูเป็นชายที่สามารถก้าวข้ามไปสู่กิลสาขาหลักได้”
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การที่เขาคิดจะพัฒนาตัวเองแล้วตั้งเป้าหมายที่ใหญ่โตกว่าเดิม มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ต่อให้คนมักจะพูดกันว่า “รักแรกมักจะไม่สมหวัง” แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
… “แต่อย่าประมาทนะเอ็ดดี้ ต่อให้เป็นแค่แด๊กเก้อ แรปเตอร์ แต่บางทีพวกมันก็รวมฝูงใหญ่น่าดูเลยนะ”
นักเรียนที่มาจากสาขาเวทมนต์พูดเตือนเขา
เอ็ดดี้ “ก็จริงของแก พวกแม่งดูเพิ่มจำนวนเยอะชิบหาย”
… “เพราะงั้นเอ็งอย่าเผลอกระโดดลงไปกลางดงรังของมันซะละ”
ข้อมูลของมอนสเตอร์ปกติจะถูกแจ้งให้ทราบตั้งแต่ตอนที่รับภารกิจมา
แต่ต่อให้มีข้อมูลละเอียดแค่ไหน สภาพความเป็นจริงก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา
ข้อมูลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยต่อกรกับมอนสเตอร์ อย่างเช่นถ้ารู้ว่ากำลังจะไปเจอกับฝูงแมลงพิษ อย่างน้อยก็จะได้เตรียมยาแก้พิษจำนวนมากเพื่อมาด้วย
ภารกิจที่เขารับมาคือภารกิจปราบปรามแด๊กเก้อ แรปเตอร์ 5 ตัว ความอันตรายของมันคืออัตราการขยายพันธ์ของพวกมันที่รวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงจะต้องเจอฝูงใหญ่แน่
ต่อให้พวกเขาคิดว่ามีความสามารถระดับนักผนจญภัยแรงค์ 2 แล้วก็ตาม พวกเขาก็ไม่คิดที่จะประมาทให้ศัตรูที่กำลังจะไปเจอ
… “---โฮ้ย”
ในตอนนั้น นักเรียนอัศวินอีกคนที่เดินอยู่แนวหน้าไปพร้อมกับเอ็ดดี้ก็หยุดเดิน
พวกเขาจับสัญญาณอะไรบางอย่างได้ ตอนนี้พวกเขาเข้าโหมดเตรียมพร้อมต่อสู้แล้ว
เอ็ดดี้ “มีอะไรวะ ?”
… “ไม่ได้กลิ่นเหม็นไหม้หรือไงวะ ?”
จริงดิ ? เขาถามเพื่อนกลับไป แล้วในตอนนั้นเอง กลิ่นเหม็นไหม้ก็มากับลมที่พัดผ่านแมกไม้จากป่าตรงหน้า
… “หรือว่าจะมีการต่อสู้ใกล้ ๆ นี้ ?”
เอ็ดดี้ “ไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลยนี่ คงจะจบไปแล้วม้าง ?”
รอบตัวพวกเขามีแต่สีเขียวของป่าไม้ เสียงเสียดสีกันของใบไม้ และเสียงร้องของแมลงกับนกที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้
เอ็ดดี้ “หรือว่า คงไม่ใช่ว่าเปิดไฟป่าหรอกนะ ?”
... “ไม่หรอก ถ้าเป็นกรณีแบบนั้นคงเห็นควันลอยโขมงไปแล้ว ต้องเกิดการต่อสู้ใกล้ ๆ นี้แน่นอน
คงเป็นผู้ใช้เวทมนต์ไฟที่กำลังต่อสู้อยู่ พวกเขาต่างกำลังคิดแบบนั้นเหมือนกัน
เอ็ดดี้ “ก็ดูไม่เห็นผิดปกติอะไรนี่ ไปกันเถอะ”
แล้วเอ็ดดี้ก็นำพวกเขาเข้าไปในป่าลึกพร้อมกับความระมัดระวังที่มากขึ้นกว่าเดิม
……………………
แล้วในที่สุดพวกเขาก็พบว่าความปกตินั้น มันผิดปกติเป็นอย่างมาก
เอ็ดดี้ “...นะ นี่มันบ้าอะไรเนี่ย….”
หลังจากเดินมาได้สักพัก พวกเขาก็พบว่านอกจากกลิ่นของต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกเผาทำลายไป ยังมีกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่ถูกย่างลอยปะปนมาด้วย
… “นี่มันโคตรสุดยอดดดดดด…. !! ทั้งรังแม่งถูกเผาทิ้งไปหมดเลยไม่ใช่หรือไงวะ”
พอผ่านมาได้สักพัก พวกเขาก็พบว่ารังของแรปเตอร์ถูกเผาจนเหี้ยน ศพของแม่และลูกตัวน้อยแรปเตอร์ต่างนอนเกลือนให้เห็นอยู่เต็มไปหมด
ความจริงพวกเขาเองก็กะว่าจะมาทำลายรังของพวกมันทิ้งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การที่รังของพวกมันถูกทำลายลงไป เลยทำให้พวกเขาไม่ต้องเหนื่อยแรงใด ๆ
แต่ทว่าพวกเขากลับไม่พบต้นเหตุของไฟนรกที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้เลยว่าเกิดจากใคร
ไม่มีเงาของผู้ใช้เวทมนต์ไฟอยู่ ณ ที่แห่งนี้
แล้วพอพวกเขาสำรวจดูให้ดีอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่ามีร่องรอยของเวทมนต์ไฟเผาทำลายราวกับพายุที่พัดผ่านรังของพวกมัน
… “นี่มัน ต้องเป็นจอมเวทที่เก่งกาจแน่นอน ถึงทำอะไรแบบนี้ได้”
เอดดี้ “แม่งเอ้ย หรือว่าเป็นนักผจญภัยคนอื่นที่มาชิงตัดหน้าไปก่อนพวกเรานะ”
หรือไม่ก็อาจจะเป็นอสูรอิฟริทที่มีพลังเพลิงอันร้อนแรงปรากฏตัวก็เป็นได้
นั่นก็เพราะ ต่อให้เป็นนักผจญภัย พวกเขาก็ไม่น่าจะทำอะไรที่ดูป่าเถื่อนขนาดนี้ลงไปได้ ด้วยรูปการที่โจมตีเป็นวงกว้างอย่างไม่สนอะไรแบบนี้ น่าจะเป็นฝีมือของมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมากกว่า
เอดดี้ “ไม่หรอก เป็นฝีมือของนักผจญภัยแน่นอน”
แกรู้ได้ไงวะ ? จอมเวทในทีมถามเอดดี้กลับไป เขาชี้ไปที่ซากของแรปเตอร์แทนคำตอบ
เอดดี้ “กรงเล็บของมันถูกตัดทิ้งไป นั่นนะ เป็นหลักฐานในการปราบพวกมันยังไงละ”
พอพวกเขาตรวจสอบอีกที ก็เป็นตามอย่างที่เอ็ดดี้ว่า กรงเล็บขวาของพวกมันถูกตัดทิ้งทั้งหมดเลย
… “แม่งบ้าไปแล้ว เยอะไปแล้วมั้งแบบนี้”
เอ็ดดี้ “ทำได้ถึงขนาดนี้คงเป็นฝีมือนักผจญภัยแรงค์ 4 แล้วละ”
… “แล้วนักผจญภัยแรงค์ 4 จะมารับงานทำลายรังของแรปเตอร์กันทำไมฟะ ?”
... “แถมยังใช้วิธีโจมตีวงกว้างอีก ไม่เข้าใจแม่งจริง ๆ”
แล้วในที่สุดพวกเขาก็ใจเย็นลงได้ในที่สุด เพราะสรุปได้แล้วว่าน่าจะเป็นฝีมือของนักผจญภัยระดับสูง
ยังไงซะพวกนักผจญภัยก็ไม่เหมือนกับอัศวิน แล้วในจำนวนที่มีอยู่ก็อาจจะมีสักคนที่พร้อมจะทำลายสิ่งต่าง ๆ โดยรอบโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา
ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงพากันเดินออกไป เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ นั่นเอง
………………
ในวันนั้น พวกนักเรียนกลุ่มนี้ไม่ได้พบกับมอนสเตอร์ที่ชื่อว่าแรปเตอร์เลยสักตัวเดียว
จะว่าโชคร้ายหรือ ? ก็ไม่น่าจะใช่
เอ็ดดี้ “นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย...อย่าบอกนะว่าแรปเตอร์ถูกกวาดล้างไปทั้งหมดแล้วนะ ?”
นั่นก็เพราะตลอดทางที่ผ่านมา รังทั้งหมด 5 รังที่เขาพบ ต่างอยู่ในสภาพเดียวกันเหมือนกันหมด
ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่หมาป่าลมเองก็มีสภาพเดียวกันด้วย
มอนสเตอร์แรงค์ 1 แรปเตอร์กับหมาป่าลม รังของพวกมันทั้งหมดถูกกวาดล้างไปหมดเลย
ส่วนมอนสเตอร์ชนิดอื่นที่เจอ ก็ดูเหมือนว่าจะวิ่งหนีบางอย่างที่อันตรายออกมากันอยู่
สุดท้ายเลยจบลงที่พวกเขาเจอแต่มอนสเตอร์ระดับล่างเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
… “เมื่อกี้ใครพูดว่าเป็นเรื่องปกติฟะ ?”
เอ็ดดี้ “ไม่หรอก ไม่สิ ปกติแล้วจอมเวทที่เก่งกาจจะมาตามล่ามอนสเตอร์แรงค์ 1 เพื่ออะไรฟะ ?”
พวกเขามาถึงอีกรังที่มีสภาพไม่ต่างจากก่อนหน้านี้อีกแล้ว นี่ก็เป็นรังที่ 15 เข้าไปแล้ว
… “ทำไงดีฟะ แบบนี้ก็ทำภารกิจไม่ได้กันพอดีสิ”
… “ดูท่าจะไม่ใช่งานง่ายแล้วแฮะ”
… “หรือว่าจะเป็นการตัดกำลังใจพวกหน้าใหม่กันนะ ?”
ถ้าหากพวกที่มีแรงค์สูงมาทำภารกิจแรงค์ต่ำละก็ มันก็จะมีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ พวกเขาสามารถจบมันลงได้อย่างง่ายดายเลยละ
ถึงทางกิลจะให้แรปเตอร์เป็นภารกิจที่ทำได้ตลอด 24 ชม. แต่ถ้าไม่มีเป้าหมายให้พวกเขาปราบ แล้วจะทำสำเร็จได้อย่างไรกัน ?
ถ้าหากมอนสเตอร์ในพื้นที่ไม่เหลืออีกแล้ว ภารกิจนี้ก็คงถูกยกเลิกไปแน่นอน
บางทีคงต้องรอให้ผ่านไปถึงครึ่งปี กว่าที่มอนสเตอร์ชนิดเดิมจะกลับมาขยายพันธ์ได้มากตามอย่างเดิม
แต่ด้วยปัญหาเรื่องระยะเวลาของภารกิจ เลยทำให้พวกเขาไม่สามารถรอนานถึงครึ่งปีได้
เอ็ดดี้ “ใจเย็นน่า ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่อื่นก็ได้”
... “แต่ว่าถ้าไปบ้าอิฟริทนั้นไปที่เดียวกับพวกเราละก็---”
เอ็ดดี้ “เห้ย อย่าพูดปักธงไปมากกว่านี้สิฟะ”
เอ็ดดี้รีบหยุดเพื่อนของเขาเอาไว้ก่อนที่จะพูดอะไรออกไป
เอ็ดดี้ “เอาเถอะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน”
ในที่สุด กล่มของพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะกลับออกไปกัน
พร้อมกับคำอวยพรจากใจว่า “ได้โปรดอย่าให้ภารกิจนี้ของพวกเราล้มเหลวเลยนะ !”